Welcome to Thai nursing time
เมื่อวันที่13 พฤศจิกายนพ.ศ. 2567 เวลา14.30 น. ณโรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ประตูน้ำกรุงเทพมหานครพญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมเข้ารับพระราชทานรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ในการพัฒนาวัคซีนประจำปี2567 ประเภทหน่วยงานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
รางวัล“ผู้ทำคุณประโยชน์ในการพัฒนางานด้านวัคซีน” จัดขึ้นเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูสนับสนุนพร้อมให้กำลังใจแก่บุคคลหรือหน่วยงานผู้ซึ่งมีผลงานในการสร้างองค์ความรู้ด้านวัคซีนที่มีคุณค่าเป็นที่ประจักษ์ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและระดับนานาชาติที่มีส่วนในการขับเคลื่อนผลักดันส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนางานด้านวัคซีนของประเทศให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติอันจะนำไปสู่การพึ่งตนเองของประเทศและสร้างความมั่นคงด้านวัคซีน
องค์การเภสัชกรรมเป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญด้านวัคซีนและชีววัตถุเสมอมาตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติการมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัคซีนและชีววัตถุชนิดใหม่ให้ทันต่อความต้องการของประเทศซึ่งองค์การเภสัชกรรมได้พัฒนาวัคซีนหลากหลายชนิดปัจจุบันมีวัคซีน5 ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับทะเบียนยาแล้วได้แก่วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 HXP-GPOVac (NDV-HXP-S COVID-19 vaccine), วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลชนิด3 สายพันธุ์Tri Fluvac (Seasonal flu) และวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลชนิด3 สายพันธุ์GPO CellFlu เป็นต้น
นอกจากนี้องค์การเภสัชกรรมยังมีความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนให้กับประเทศมีการพัฒนาการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่รองรับการระบาด(Pre-Pandemic) สายพันธุ์H7N9 โดยใช้เทคโนโลยีการใช้เซลล์เพาะเลี้ยงโดยมีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานJICA (Japan International Cooperation Agency) ประเทศญี่ปุ่นคอยให้คำแนะนำมีความร่วมมือกับบริษัทSK. Biosciences ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่จากเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงจากประเทศเกาหลีเพื่อขยายศักยภาพการผลิตวัคซีนและขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนจากเทคโนโลยีเซลล์เพาะเลี้ยงรวมถึงการศึกษาโอกาสในการจัดตั้งโรงงานผลิตDrug substance ในประเทศไทยเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการรับมือในสถานการณ์การระบาดใหญ่(Pandemic Preparedness) และการพัฒนาสู่มาตรฐานระดับสากลเช่นWHO Prequalification ต่อไปการเสริมสร้างศักยภาพด้านวัคซีนในทุกด้านนับเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านวัคซีนของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืนต่อไป