Welcome to Thai nursing time

คุณจิราภรณ์ พราหมณ์คล้ำ 062 619 7893 , คุณอมรรัตน์ ทัดดอกไม้ : 084 635 5414 6:00 AM - 10:00 PM (Mon-Fri)

รัฐร่วมเอกชน “สวรส.-โนโว นอร์ดิสค์” ยกระดับมาตรฐานวิจัยคลินิก สู่การพัฒนาระบบสุขภาพและเศรษฐกิจไทย

จำนวนผู้เข้าชม : 283 ครั้ง

ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อการพัฒนาระบบสุขภาพและการยกระดับ คุณภาพชีวิตของประชาชน โดยงานวิจัยทางคลินิกนับเป็นหัวใจสำคัญเนื่องจากเป็นกระบวนการที่ช่วยพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ ทั้งที่เป็นยาอุปกรณ์รวมถึงแนวทางการรักษาใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การดูแลผู้ป่วยในโรคที่ซับซ้อนและหายาก จากรายงานสถานการณ์ทั่วโลกพบว่า แนวโน้มการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) ด้านการแพทย์ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา แอฟริกา และประเทศในเอเชียตามลำดับ สำหรับประเทศไทยมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ โดยในการประเมินศักยภาพในการเป็นสถานที่ทำวิจัยทางคลินิก ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่ม  opportunity tier เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยที่พร้อมเข้าสู่การรักษาจำนวนมาก จึงมีโอกาสที่ผู้สนับสนุนการวิจัย (sponsors) สามารถหาอาสาสมัครเพื่อเข้าร่วมโครงการวิจัยพัฒนายาหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ได้มาก สามารถทดแทนกลุ่มประเทศดั้งเดิมอย่างยุโรปหรืออเมริกาซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการทำวิจัยสูง

และเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และบริษัทโนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนครั้งสำคัญ เพื่อยกระดับมาตรฐานวิจัยทางคลินิก และสนับสนุนให้เกิดการขยายโอกาสของการดำเนินงานด้านการวิจัยทางคลินิกในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยมี  นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขลงนามร่วมกับ คุณเอ็นริโก้ คานัล บรูแลนด์ ผู้จัดการ ทั่วไป บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด และ ฯพณฯ นายแดนนี อันนัน เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องมาตุลี 2 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น  

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กล่าวว่า สวรส. ในฐานะหน่วยบริหารจัดการ ทุนวิจัยระบบสุขภาพของประเทศ และเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการวิจัยทางคลินิกของประเทศไทย (Thailand  Clinical Research Collaboration หรือ Thailand CRC) เรามองเห็นความหวังในการขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าว เนื่องจาก ประเทศไทยมีต้นทุนและความพร้อม ทั้งในด้านโครงสร้างการบริหารระดับประเทศ และการจัดการทรัพยากรสาธารณสุข  ได้แก่ สถานพยาบาลทุกระดับ ตั้งแต่โรงเรียนแพทย์ที่มีศักยภาพสูงไปจนถึงสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิที่กระจายอย่าง ทั่วถึงในทุกภูมิภาค มีสถาบันการศึกษาชั้นนำสำหรับผลิตแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขหลากหลายสาขา ตลอดจนการมี สถานพยาบาลและระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ครอบคลุมประชาชนทั้งประเทศ เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เกิด การเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นของประชาชนอย่างกว้างขวาง 

นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า แต่ในความพร้อมและต้นทุนที่มี ยังต้องมีการพัฒนาระบบสนับสนุนด้านอื่นๆ เพิ่มเติม  ทั้งการพัฒนาศักยภาพศูนย์วิจัยคลินิกที่ได้มาตรฐานสากลให้กระจายไปยังสถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข และมี การดำเนินงานร่วมกันเป็นเครือข่าย การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และประสบการณ์ด้านการวิจัยคลินิก รวมทั้งการบริหาร จัดการให้เกิดระบบนิเวศที่สนับสนุนให้เกิดการดำเนินการวิจัยทางคลินิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการบูรณาการ


ระหว่างผู้ดูแลกฎหมายในส่วนกลางและจริยธรรมงานวิจัย การสร้างระบบจัดการข้อมูลสุขภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้าง เศรษฐกิจทางด้านสุขภาพให้กับประเทศ และเป็นช่องทางในการเข้าถึงยาใหม่ของอาสาสมัครโดยไม่มีค่าใช้จ่าย


“สวรส. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบให้จัดตั้งเครือข่ายศูนย์วิจัยคลินิกระดับประเทศ ซึ่งเรามี เป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพศูนย์วิจัยทางคลินิกที่ได้มาตรฐาน จำนวน 30 ศูนย์พัฒนาบุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาล  เภสัชกร นักวิจัย ฯลฯ พัฒนาระบบจัดการงานวิจัยเพื่อรองรับงานวิจัยยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ พัฒนาระบบ สารสนเทศงานวิจัยทางคลินิกในประเทศ ตลอดจนการขับเคลื่อนการดำเนินงานในรูปแบบเครือข่าย และได้พัฒนาความ ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีภารกิจทางด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้อง ดังเช่นในวันนี้ ซึ่งได้ร่วมกับบริษัท โนโว นอร์ดิสค์ที่มีประสบการณ์ในการดำเนินการวิจัยทางคลินิก และเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพระดับโลก ซึ่งความ ร่วมมือในครั้งนี้ จะนำไปสู่การขยายโอกาสในการดำเนินงานด้านการวิจัยทางคลินิกในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ตลอดจน การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และยกระดับระบบสุขภาพให้เข้มแข็ง ควบคู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีก ทางหนึ่ง” นพ.ศุภกิจ ทิ้งท้าย

Recent Posts