Welcome to Thai nursing time

คุณจิราภรณ์ พราหมณ์คล้ำ 062 619 7893 , คุณอมรรัตน์ ทัดดอกไม้ : 084 635 5414 6:00 AM - 10:00 PM (Mon-Fri)

เปิดโครงการบริการทันตกรรมเคลื่อนที่แก่ผู้ต้องขังเรือนจำนราธิวาส

จำนวนผู้เข้าชม : 146 ครั้ง

กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และ สปสช.เปิดโครงการบริการทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับผู้ต้องขัง ภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว นำรถทันตกรรมเคลื่อนที่ให้บริการแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำนราธิวาสศ.นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นายกูเฮง ยาวอฮะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรม กรมราชทัณฑ์ กระทรวงสาธารณสุข สปสช. ในการจัดรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการด้านทันตกรรมแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำ และเด็กในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในพื้นที่จังหวัดนำร่องนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว 


 

สปสช.ร่วมพิธีเปิดโครงการ “บริการทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับผู้ต้องขัง ภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรม กรมราชทัณฑ์ กระทรวงสาธารณสุข สปสช. ในการจัดรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการด้านทันตกรรมแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำ และเด็กในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ในพื้นที่จังหวัดนำร่องนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว 

ศ.นพ.เชิดชัย กล่าวว่า ระบบหลักประกันสุขภาพเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐาน และได้ยกระดับเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ถือเป็นนโยบายที่ขับเคลื่อนด้วยความยึดถือคุณค่าของมนุษยธรรมและความเท่าเทียมในสุขภาพ ลบล้างข้อจำกัดของพื้นที่และสถานะทางสังคม ขณะที่ผู้ต้องขังเอง แม้จะมีสถานะเป็นผู้ต้องขังแต่ก็เป็นมนุษย์ที่ต้องได้รับความคุ้มครองดูแลสิทธิขั้นพื้นฐานในการรับบริการสุขภาพเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะด้านทันตกรรมเป็นเรื่องสำคัญมาก หากมีปัญหาสุขภาพช่องปากก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม กระทรวงสาธารณสุข ได้ขับเคลื่อนนโยบาย quick win 13 ข้อ ในข้อแรกคือการส่งเสริมโครงการพระราชดำริ โครงการเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ที่กระทรวงสาธารณสุขจะได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนการดูแลสุขภาพแก่ผู้ต้องขังเหล่านี้ บริการทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับผู้ต้องขัง เป็นตัวอย่างที่เห็นเป็นรูปธรรมว่ารัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ก็พร้อมให้การดูแลอย่างเต็มที่

ด้าน นายกูเฮง กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีนโยบายในการดูแลสุขภาพให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำภายใต้ “โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบสุขภาพผู้ต้องขังในเรือนจำให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขอย่างคุณภาพและมาตรฐาน เท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรมทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์มีเรือนจำ ทัณฑสถาน และสถานที่กักขังจำนวน 143 แห่ง มีผู้ต้องขังในเรือนจำ 280,835 คน ขณะที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาสนี้ มีผู้ต้องขังจำนวนทั้งสิ้น 3,060 คน เป็นผู้ต้องขังชายจำนวน 2,541 และผู้ต้องขังหญิงจำนวน 519 คน "บริการทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับผู้ต้องขัง นอกจากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ แล้วยังเป็นการยกระดับการดูแลสุขภาพช่องปากให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า โครงการนี้เป็นอีกขั้นของการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการ ที่ผ่านมากลุ่มผู้ต้องขังมีปัญหาเข้าไม่ถึงบริการสุขภาพโดยเฉพาะด้านทันตกรรม ทำให้มีปัญหาปวดฟันและกระทบต่อสุขภาพโดยรวม โครงการนี้จึงได้จัดบริการเชิงรุกนำรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการแก่ผู้ต้องขังถึงในเรือนจำ  ปัญหาสุขภาพของผู้ต้องขังเรือนจำนราธิวาส 5 อันดับแรกประกอบด้วย 1. โรคระบบทางเดินหายใจ 2. โรคหัวใจและหลอดเลือด 3.โรคผิวหนัง 4. ปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ และ 5.ปัญหาสุขภาพในช่องปาก ซึ่งการจัดรถทันตกรรมเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการแก่ผู้ต้องขังเรือนจำนราธิวาสในครั้งนี้ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ.- 27 มี.ค. 2567 โดยมีผู้ต้องขังเข้ารับบริการทั้งสิ้น 2,917 คน

Recent Posts