Welcome to Thai nursing time

คุณจิราภรณ์ พราหมณ์คล้ำ 062 619 7893 , คุณอมรรัตน์ ทัดดอกไม้ : 084 635 5414 6:00 AM - 10:00 PM (Mon-Fri)

คณะผู้แทน WHO, UNICEF, UNFPA เยี่ยมชมการขับเคลื่อนงานส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ โรงพยาบาลนครพิงค์ และเครือข่ายจังหวัดเชียงใหม่

จำนวนผู้เข้าชม : 223 ครั้ง

วันที่12กุมภาพันธ์พ.ศ.2567ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย นำคณะผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ ดร.จอส ฟอนเดลาร์ (Dr. Jos Vandelaer) ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย คุณคยองซัน คิม (Ms.Kyungsun Kim) ผู้แทนยูนิเซฟประจำประเทศไทย คุณสิริลักษณ์ เชียงว่อง หัวหน้าสำนักงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ประจำประเทศไทย ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางในการพัฒนาความร่วมมือ สนับสนุนวาระแห่งชาติเรื่องการเพิ่มประชากรภายใต้นโยบายส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ และเยี่ยมชมคลินิกส่งเสริมการมีบุตร,ANC คุณภาพ/โรงเรียนพ่อแม่,ห้องคลอดคุณภาพ,Well child clinic, Day care ของโรงพยาบาลนครพิงค์ และหน่วยบริการของภาคีเครือข่าย

ประเทศไทยได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก 3 องค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA)องค์การอนามัยโลก (WHO Thailand) องค์การยูนิเซฟ (UNICEF Thailand) ทั้งด้านความร่วมมือทางวิชาการ และการขับเคลื่อนงานระดับพื้นที่ โดยเฉพาะในกลุ่มพื้นที่ห่างไกลและกลุ่มเปราะบาง ซึ่งการผลักดันให้การส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพเป็นวาระแห่งชาติครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ในปี 2565 ประเทศไทยมีจำนวนเด็กเกิดใหม่เพียง 485,085 ราย น้อยที่สุดในรอบกว่า 70 ปี และจำนวนการเกิดยังน้อยกว่าการตาย ทำให้จำนวนประชากรลดลงตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา  ยังพบว่าอัตราการเจริญพันธุ์รวม (Total Fertility Rate) หรือจำนวนบุตรโดยเฉลี่ยของหญิงไทยลดลงเหลือเพียง 1.08  ซึ่งต่ำกว่าระดับทดแทนและมีแนวโน้มที่จะลดลงต่อเนื่อง เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ และหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป คาดการณ์ว่าในอีก 60 ปี ข้างหน้า จำนวนประชากรไทยจะลดลงถึงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 33 ล้านคน โดยวัยทำงานลดลงจาก 46 ล้านคน เหลือเพียง 14 ล้านคน ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีลดลงเหลือเพียง 1 ล้านคน ขณะที่ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี จะเพิ่มขึ้นจาก 8 ล้านคนเป็น 18 ล้านคน ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างจำนวนประชากรมากขึ้น และเสี่ยงต่อการขาดแคลนแรงงาน ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศในอนาคต

รัฐบาลไทยและกระทรวงสาธารณสุข ได้ผลักดันประเด็นการส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหา ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศเป็นวาระแห่งชาติได้ได้ในเดือนมีนาคมนี้  สาระสำคัญที่พิจารณาคือมาตรการส่งเสริมการมีบุตร ทั้งเรื่องความสมดุลการทำงานกับการดูแลครอบครัว การแบ่งเบาค่าใช้จ่ายและภาระในการเลี้ยงดูบุตร การช่วยเหลือคนที่มีบุตรยาก และการเข้าถึงเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์

Recent Posts