Welcome to Thai nursing time
โรงงานผลิตยารังสิต ระยะที่ 2 คืบหน้าแล้วกว่า 40% งานด้านโครงสร้างเกือบเสร็จแล้วทุกอาคาร ขณะนี้เริ่มติดตั้งเครื่องจักรระบบสนับสนุนการผลิต เช่น chiller กับ cooling tower ถังน้ำมัน คาดพร้อมผลิตได้ปี 2565
โรงงานผลิตยารังสิต ระยะที่ 2 คืบหน้าแล้วกว่า 40% งานด้านโครงสร้างเกือบเสร็จแล้วทุกอาคาร ขณะนี้เริ่มติดตั้งเครื่องจักรระบบสนับสนุนการผลิต เช่น chiller กับ cooling tower ถังน้ำมัน คาดพร้อมผลิตได้ปี 2565
นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่องค์การเภสัชกรรม (คลอง10) อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี บนเนื้อที่ 60 ไร่ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง จำนวน 5,396 ล้านบาท ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างก่อสร้างและการควบคุมงาน โดยมีผู้แทนจากองค์กรต่อต้านคอร์รับชั่น (ประเทศไทย) ร่วมสังเกตการณ์ด้วย ใช้เวลาในการก่อสร้างพร้อมติดตั้งระบบงาน และเครื่องจักรเป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 ถึง มิถุนายน 2565 สำหรับรองรับกำลังการผลิตยาที่ย้ายฐานการผลิตมาจากโรงงานที่องค์การเภสัชกรรม ถนนพระรามที่ 6 และผลิตยารายการใหม่ที่ได้ทำการวิจัยและพัฒนาสำเร็จ และด้วยเป็นโรงงานที่มีศักยภาพสูงจะทำให้สามารถขยายกำลังการผลิตยาโดยรวมเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันกว่า 1 เท่าตัว ซึ่งจะช่วยรัฐประหยัดค่าใช้จ่ายด้านยา ได้มากกว่ามูลค่าในปัจจุบันที่ประหยัดได้มากกว่าถึงปีละ 7,500 ล้านบาท โดยดำเนินการผลิตตามมาตรฐานคุณภาพ GMP PIC/S ที่จะรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา กลุ่มยาที่รักษาโรคเรื้อรัง ยาที่มีมูลค่าการใช้สูง ยาจำเป็น ได้แก่ ยารักษาโรคเอดส์ เบาหวาน ความดัน ลดไขมันในเส้นเลือด วัณโรค ยาช่วยชีวิต ยาชา ยาฆ่าเชื้อ วิตามิน เป็นต้น คาดว่าจะสามารถเปิดทำการผลิตได้ภายในปี 2565 โรงงานฯแห่งใหม่นี้ จะทำการผลิตยาน้ำ ยาฉีด ยาครีม/ขี้ผึ้ง และยาเม็ด รวมทั้งหมดทั้งยาเก่าและยาใหม่ ประมาณ 160 รายการ
ไฟล์เนื้อหาข่าว
ขอขอบคุณ/องค์การเภสัชกรรม/02 644 8856/082 493 9890/16 ธันวาคม 2563