รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดสัมมนาวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรมทางการพยาบาล เพื่อพัฒนาความรู้เชิงวิชาชีพ รวมถึงพัฒนาภาวะผู้นำในวิชาชีพพยาบาล ให้เป็นผู้ที่รู้เท่าทันปัญหาสุขภาพของประชาชน ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และพร้อมสำหรับการดูแลสุขภาพประชาชนไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2565 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการสัมมนาวิชาการครั้งที่ 33 ประจำปี 2565 เรื่อง “ภาวะผู้นำ…ผลสัมฤทธิ์ทางการพยาบาลไทย” (Leadership…Thai Nursing Achievement) พร้อมมอบโล่รางวัล NQA ปี 2564 และปี 2565 และโล่เกียรติยศแด่ผู้เกษียณอายุราชการ โดยมี นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหาร และผู้บริหารทางการพยาบาล อาจารย์พยาบาล ผู้ปฏิบัติการพยาบาลจากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล นักวิชาการและผู้สนใจ จำนวน 1,200 คน เข้าร่วมงาน
ดร.สาธิต กล่าวว่า พยาบาล ถือเป็นกำลังสำคัญของระบบบริการสุขภาพและเป็นบุคลากรหลักในสถานบริการสุขภาพทุกระดับ จำเป็นต้องพัฒนาความรู้ในเชิงวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปพัฒนาระบบและกระบวนการปฏิบัติงานด้านการบริหาร บริการและวิชาการให้มีคุณภาพ เป็นผู้นำในการสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการพยาบาล รู้เท่าทันปัญหาสุขภาพของประชาชน และประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานทางการพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งการสัมมนาทางวิชาการ เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ และเป็นโอกาสที่บุคลากรพยาบาลจากหลากหลายหน่วยงานและพื้นที่ที่มีบริบทต่างกันจะได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นวัตกรรมทางการพยาบาล มีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการพยาบาลที่เข้มแข็ง รวมถึงพัฒนาภาวะผู้นำในวิชาชีพพยาบาลให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และพร้อมสำหรับการดูแลสุขภาพประชาชนไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
“พยาบาลต้องเผชิญกับสถานการณ์หน้างานที่หลากหลาย จึงต้องทำงานอย่างเข้มแข็งและเสียสละ เป็นมดงานที่ช่วยดูแลสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมา พยาบาลเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยก้าวผ่านสถานการณ์มาได้และได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ขอให้ทุกท่านภูมิใจ และขอให้ตักตวงความรู้ประสบการณ์จากการสัมมนาครั้งนี้ให้มากที่สุด เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทงานและช่วยกันเดินหน้าทำให้ระบบสาธารณสุขไทยเข้มแข็งต่อไปอย่างยั่งยืน” ดร.สาธิต กล่าว